ข่าวที่3
สธ. รับแล้วสารเคมีในผัก-ผลไม้ ล้างยังไงก็ไม่หมด เล็งแบนสารเคมีที่มีผลต่อสุขภาพ 3 ชนิด
รายงานข่าวแจ้งว่า วานนี้ (2 ต.ค. 2561) นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีที่ นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
ได้ออกมาโพสต์ข้อความโจมตีทางกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ออกมาแถลงข่าวว่า ผักและผลไม้ที่วางจำหน่ายอยู่ในประเทศมีเกณฑ์ปลอดภัย และพืชผักผลไม้ที่มีสารพิษปะปนอยู่ล้างออกได้
แต่แท้ที่จริงๆ แล้ว สารที่ตกค้างส่วนใหญ่ประมาณ 60% ล้างไม่ออก แถมสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มีการขึ้นทะเบียนในประเทศไทยมีประมาณ 280 ชนิด แต่ส่วนใหญ่การสุ่มตรวจที่ผ่านมาของหน่วยงานราชการตรวจได้เพียง 10% ของจำนวนสารที่มีการใช้ในประเทศเท่านั้น ว่า
การล้างก็เป็นวิธีหนึ่งที่อาจทำให้สารเคมีบางอย่างลดปริมาณลง แต่ขอยืนยันว่าไม่สามารถล้างจนปลอดจากสารเคมีได้ และไม่มีวิธีใดที่ทำให้สารเคมีไม่ปนเปื้อน และเมื่อมีการบริโภคก็อาจมีการสะสมในร่างกายจนทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้
ทั้งนี้ สธ.ยืนยันว่าจะต้องแบนสารเคมีที่มีผลต่อสุขภาพ โดยเฉพาะสารเคมี 3 ชนิด คือ พาราควอท, ไดลโฟเสท และ คลอไพรีฟอส และสารพิษฆ่าแมลงซึ่งมีอยู่สี่กลุ่มด้วยกัน
แต่เนื่องจากการแบนไม่ใช่หน้าที่ของ สธ. จึงจะมีการเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้พิจารณา แต่หน้าที่หลักของ สธ. คือให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชนที่ถูกต้อง เพราะปัจจุบันจากการสุ่มตรวจพบการปนเปื้อนอยู่ถึง 30-40 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ดีเพื่อความปลอดภัยประชาชนควรเลือกซื้อผักและผลไม้จากเกษตรอินทรีย์ หรือแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ และเพื่อความปลอดภัยตั้งแต่ต้น หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงควรผลักดันในเรื่องห้ามใช้สารเคมีสารพิษในพืชผักผลไม้ เพื่อจะได้ไม่มีสารพิษปนเปื้อนอยู่ในผลผลิต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น